Smart TV ยี่ห้อไหนดี กำลังมองหาประสบการณ์การรับชมที่ดื่มด่ำและเป็นส่วนตัวอยู่ใช่ไหม ไม่ต้องมองหาที่ไหนไกลไปกว่าสมาร์ททีวี ด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การสตรีมออนไลน์ และแอปพลิเคชันแบบอินเทอร์แอกทีฟ สมาร์ททีวีจึงมอบตัวเลือกความบันเทิงที่หลากหลายเพียงปลายนิ้วสัมผัส คุณสามารถเข้าถึงภาพยนตร์ รายการทีวี และเกมที่คุณชื่นชอบ ทั้งหมดนี้ทำได้จากห้องนั่งเล่นที่แสนสบายของคุณ นอกจากนี้ ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การควบคุมด้วยเสียง การควบคุมทีวีของคุณจะง่ายกว่าที่เคย และการบำรุงรักษาก็แสนง่ายดาย เพียงทำความสะอาดหน้าจอ พักหน้าจอให้เย็น และหลีกเลี่ยงภาพนิ่งเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพสูงสุด อัพเกรดประสบการณ์ความบันเทิงของคุณด้วย Smart TV วันนี้!
เนื้อหา
5 อันดับ Smart TV ขายดี
1. Hisense 40E5G Android TV ทีวี 40 นิ้ว Full HD Smart TV Google Assistant Smart TV Netflix YouTube Voice Control Build in Wifi DVB-T2 / USB2.0 / HDMI /AV / Digital Audio – Smart TV ยี่ห้อไหนดี
ราคา: 5,650 บาท ราคาวันที่ 18/6/23
2. TCL ทีวี 32 นิ้ว Smart Android11 TV HD Wifi/Youtube/Nexflix รุ่น LED32S6500 – Smart TV ยี่ห้อไหนดี
ราคา: 5,440 บาท ราคาวันที่ 18/6/23
3. ✅[รับประกัน1ปี] ABL Smart TV LED ขนาด 32 นิ้ว Full HD ดู Youtube Netfilx Disney โหลดแอพเพิ่มได้ ระบบAndroid ลำโพงคู่ – Smart TV ยี่ห้อไหนดี
ราคา: 2,790 – 5,390 บาท ราคาวันที่ 18/6/23
4. Hisense TV ทีวี 50 นิ้ว 4K Ultra HD Smart TV HDR10+ Dolby Vision Voice Control รุ่น 50E6H VIDAA U5 2.5G+5G WIFI Build in /DVB-T2 / USB2.0 / HDMI /AV – Smart TV ยี่ห้อไหนดี
ราคา: 8,590 บาท ราคาวันที่ 18/6/23
5. Hisense TV ทีวี 55 นิ้ว 4K Ultra HD Smart TV รุ่น 55E6H VIDAA U5 Voice Control Dolby Vision Netflix YouTube 2.4G+5G WIFI Build in /DVB-T2 / USB2.0 / HDMI /AV – Smart TV ยี่ห้อไหนดี
ราคา: 9,890 บาท ราคาวันที่ 18/6/23
Smart TV คืออะไร
สมาร์ททีวีคือเครื่องรับโทรทัศน์ที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและนำเสนอคุณสมบัติและบริการออนไลน์ที่หลากหลายนอกเหนือจากการแสดงรายการทีวีแบบเดิม
โดยทั่วไปแล้ว สมาร์ททีวีจะมีการเชื่อมต่อ WiFi ในตัว ทำให้สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งออนไลน์ เช่น Netflix, Hulu และ Amazon Prime Video รวมถึงบริการสตรีมเพลงอย่าง Spotify และ Pandora สมาร์ททีวีบางรุ่นยังมีการเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย การท่องอินเทอร์เน็ต และแอพเกมอีกด้วย
สมาร์ททีวีสามารถควบคุมได้โดยใช้รีโมทคอนโทรล คำสั่งเสียง หรือแม้แต่แอปสมาร์ทโฟน พวกเขาให้วิธีที่สะดวกและครบวงจรมากขึ้นในการเข้าถึงความบันเทิงและเนื้อหาออนไลน์รูปแบบต่างๆ จากความสะดวกสบายในห้องนั่งเล่นของคุณ
Smart TV มีกี่แบบ
สมาร์ททีวีสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- สมาร์ททีวีที่ใช้ระบบปฏิบัติการ: สมาร์ททีวีเหล่านี้ใช้ระบบปฏิบัติการเฉพาะ เช่น Android TV, Tizen (ใช้โดย Samsung), webOS (ใช้โดย LG) หรือ Roku TV ระบบปฏิบัติการเหล่านี้มีส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) สำหรับการนำทางผ่านคุณสมบัติและบริการต่างๆ ของทีวี ตลอดจนการเข้าถึงแอปและเนื้อหาออนไลน์ต่างๆ
- สมาร์ททีวีที่ไม่ใช้ระบบปฏิบัติการ: สมาร์ททีวีเหล่านี้ไม่ทำงานบนระบบปฏิบัติการใดระบบหนึ่ง แต่มีซอฟต์แวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงเนื้อหาและบริการออนไลน์ได้ สมาร์ททีวีเหล่านี้อาจมีคุณสมบัติจำกัดเมื่อเทียบกับสมาร์ททีวีที่ใช้ระบบปฏิบัติการ แต่ก็ยังสามารถเข้าถึงบริการและแอพสตรีมมิ่งยอดนิยมได้
เป็นที่น่าสังเกตว่าสมาร์ททีวีบางรุ่นอาจมีคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น กล้องหรือไมโครโฟนในตัวสำหรับการประชุมผ่านวิดีโอ หรือความเข้ากันได้กับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม เช่น Amazon Echo หรือ Google Home
ข้อดีของ Smart TV
สมาร์ททีวีมีข้อดีหลายประการเหนือโทรทัศน์แบบดั้งเดิม:
- การเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์: ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของสมาร์ททีวีคือความสามารถในการเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์และบริการสตรีมโดยตรงจากโทรทัศน์ของคุณ โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์สตรีมหรือคอมพิวเตอร์แยกต่างหาก
- User-Friendly Interface: สมาร์ททีวีมีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้คุณนำทางผ่านคุณสมบัติและบริการต่างๆ ของทีวีได้อย่างง่ายดาย โดยใช้รีโมทคอนโทรล คำสั่งเสียง หรือแม้แต่แอพสมาร์ทโฟน
- ตัวเลือกความบันเทิงเพิ่มเติม: ด้วยสมาร์ททีวี คุณสามารถเข้าถึงไลบรารีภาพยนตร์ รายการทีวี และเนื้อหาออนไลน์อื่น ๆ มากมายจากแหล่งต่าง ๆ เช่น Netflix, Hulu, Amazon Prime Video และ YouTube และอื่น ๆ
- การท่องอินเทอร์เน็ต: สมาร์ททีวียังช่วยให้คุณสามารถท่องอินเทอร์เน็ต ตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดีย และแม้แต่เล่นเกม ทั้งหมดนี้ทำได้จากความสะดวกสบายในห้องนั่งเล่นของคุณ
- การผสานรวมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม: สมาร์ททีวีหลายรุ่นเข้ากันได้กับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม เช่น Amazon Echo หรือ Google Home ช่วยให้คุณควบคุมทีวีโดยใช้คำสั่งเสียง
- คุณภาพของภาพที่ดีขึ้น: สมาร์ททีวีมักติดตั้งเทคโนโลยีการแสดงผลขั้นสูง เช่น ความละเอียด 4K Ultra HD, HDR (ช่วงไดนามิกสูง) และหน้าจอ OLED ซึ่งให้คุณภาพของภาพที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับทีวีแบบดั้งเดิม
โดยรวมแล้ว สมาร์ททีวีมอบวิธีที่สะดวกและครบวงจรมากขึ้นในการเข้าถึงความบันเทิงและเนื้อหาออนไลน์รูปแบบต่างๆ จากความสะดวกสบายในห้องนั่งเล่นของคุณ
วิธีเลือก Smart TV
การเลือกสมาร์ททีวีอาจเป็นเรื่องที่ท่วมท้นเนื่องจากคุณสมบัติ แบรนด์ และขนาดที่หลากหลายที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่จะช่วยคุณเลือกสมาร์ททีวีที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ:
- ขนาดหน้าจอ: พิจารณาขนาดของห้องที่จะวางทีวีและเลือกขนาดหน้าจอให้เหมาะสม หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นอาจมอบประสบการณ์การรับชมที่ชวนดื่มด่ำมากขึ้น แต่ก็ไม่ควรใหญ่เกินไปจนทำให้ปวดตาหรือไม่สบายตา
- เทคโนโลยีการแสดงผล: มีเทคโนโลยีการแสดงผลที่แตกต่างกันสำหรับสมาร์ททีวี เช่น LED, OLED และ QLED โดยทั่วไปแล้ว หน้าจอ OLED และ QLED ให้คุณภาพของภาพที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับหน้าจอ LED แต่อาจมีราคาแพงกว่า
- ระบบปฏิบัติการ: มองหาสมาร์ททีวีที่มีระบบปฏิบัติการที่มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย แอพที่หลากหลาย และการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำ
- การเชื่อมต่อ: ตรวจสอบว่า Smart TV มีการเชื่อมต่อ WiFi, Bluetooth, พอร์ต HDMI และพอร์ต USB ในตัวหรือไม่ คุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น คอนโซลเกม ซาวด์บาร์ หรืออุปกรณ์สตรีม
- คุณภาพเสียง: พิจารณาคุณภาพเสียงของทีวี เนื่องจากสมาร์ททีวีหลายรุ่นมาพร้อมลำโพงในตัวซึ่งอาจไม่ได้ให้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด มองหาทีวีที่มีเอาต์พุตเสียงที่ดี หรือลงทุนกับซาวนด์บาร์หรือระบบลำโพงแยกต่างหาก
- แบรนด์และราคา: เลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้พร้อมการสนับสนุนลูกค้าที่ดีและราคาที่เหมาะสม พิจารณาค่าใช้จ่ายระยะยาวของทีวี รวมถึงการบำรุงรักษา การซ่อมแซม และการเปลี่ยนชิ้นส่วน
- บทวิจารณ์และคำแนะนำ: อ่านบทวิจารณ์และขอคำแนะนำจากเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวที่เป็นเจ้าของสมาร์ททีวี ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจประสิทธิภาพ คุณสมบัติ และประสบการณ์โดยรวมของทีวี
โดยรวมแล้ว การเลือกสมาร์ททีวีขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล งบประมาณ และพฤติกรรมการรับชมของคุณ ใช้เวลาในการวิจัยและเปรียบเทียบรุ่นต่างๆ ก่อนตัดสินใจ
ขนาดจอทีวีที่เหมาะสม
ขนาดจอทีวีที่แนะนำสำหรับห้องขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่างทีวีและพื้นที่นั่งเล่น ตามหลักการทั่วไป ควรเลือกขนาดหน้าจอทีวีตามระยะห่างจากทีวีถึงสายตาผู้ชม ต่อไปนี้เป็นหลักเกณฑ์ที่จะช่วยคุณเลือกขนาดหน้าจอทีวีที่เหมาะสมตามระยะการรับชม:
- 32 ถึง 40 นิ้ว: เหมาะสำหรับระยะการมอง 1.2 ถึง 1.5 เมตร
- 43 ถึง 55 นิ้ว: เหมาะสำหรับระยะการมอง 1.5 ถึง 2.1 เมตร
- 58 ถึง 65 นิ้ว: เหมาะสำหรับระยะการรับชม 2.1 ถึง 2.7 เมตร
- 70 นิ้วขึ้นไป: เหมาะสำหรับระยะการรับชม 2.7 เมตรขึ้นไป
เป็นที่น่าสังเกตว่าหลักเกณฑ์เหล่านี้ไม่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนและอาจแตกต่างกันไปตามความชอบส่วนบุคคลและสภาพแวดล้อมในการรับชม บางคนอาจชอบขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงตามความชอบและรูปแบบห้อง นอกจากนี้ยังสามารถรับชมหน้าจอที่มีความละเอียดสูง เช่น 4K และ 8K ในระยะที่ใกล้ขึ้นได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพของภาพ
Smart TV เหมาะกับใคร
สมาร์ททีวีเหมาะสำหรับใครก็ตามที่ชอบดูรายการทีวี ภาพยนตร์ และความบันเทิงในรูปแบบอื่นๆ จากความสะดวกสบายในห้องนั่งเล่น สมาร์ททีวีให้ประโยชน์หลายประการเหนือทีวีแบบดั้งเดิม เช่น การเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์ อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย แอพและคุณสมบัติที่หลากหลาย
สมาร์ททีวีเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ:
- ผู้ใช้ที่เชี่ยวชาญด้านเทคนิค: หากคุณสนุกกับการใช้เทคโนโลยีและต้องการรวมทีวีของคุณเข้ากับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมของคุณ สมาร์ททีวีสามารถมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและบูรณาการ
- ไม่ต้องต่อสาย: สมาร์ททีวีเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์และบริการสตรีมโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์สตรีมแยกต่างหากหรือสมัครสมาชิกเคเบิล
- เกมเมอร์: สมาร์ททีวียังเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการเล่นเกมบนหน้าจอขนาดใหญ่โดยไม่จำเป็นต้องใช้คอนโซลแยกต่างหาก
- ผู้ชื่นชอบภาพยนตร์และทีวี: หากคุณรักการชมภาพยนตร์และรายการทีวี สมาร์ททีวีสามารถมอบประสบการณ์การรับชมที่สะดวกและดื่มด่ำด้วยการเข้าถึงไลบรารีเนื้อหามากมาย
โดยรวมแล้ว สมาร์ททีวีเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมทีวีที่ปรับปรุงและบูรณาการ
วิธีใช้สมาร์ททีวี
การใช้สมาร์ททีวีนั้นง่ายและตรงไปตรงมา และขั้นตอนอาจแตกต่างกันไปเล็กน้อยขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของทีวีของคุณ ต่อไปนี้คือขั้นตอนทั่วไปบางประการที่จะช่วยให้คุณใช้สมาร์ททีวีได้:
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต: หากต้องการใช้ Smart TV คุณต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย Wi-Fi หรือสายอีเทอร์เน็ต
- ตั้งค่าทีวี: ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อตั้งค่าทีวี รวมถึงการตั้งค่าภาษา โซนเวลา และการแสดงผล
- นำทางทีวี: ใช้รีโมทคอนโทรลหรือแอพสมาร์ทโฟนที่เข้ากันได้เพื่อนำทางเมนูทีวีและเลือกแอพหรือเนื้อหาที่จะรับชม
- ติดตั้งแอพ: สมาร์ททีวีส่วนใหญ่มาพร้อมกับแอพที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า เช่น Netflix, Hulu หรือ Amazon Prime Video คุณยังสามารถดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติมจากร้านแอปที่ให้บริการโดยระบบปฏิบัติการของทีวีของคุณ
- กำหนดการตั้งค่าเอง: ปรับการตั้งค่าภาพและเสียงตามที่คุณต้องการ และปรับแต่งการตั้งค่าอื่นๆ เช่น การควบคุมโดยผู้ปกครองหรือการตั้งค่าเครือข่าย
- แคสต์หรือมิเรอร์เนื้อหา: คุณสามารถแคสต์หรือมิเรอร์เนื้อหาจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไปยังสมาร์ททีวีได้โดยใช้ฟีเจอร์ในตัว เช่น Apple AirPlay หรือ Google Chromecast
- ใช้การควบคุมด้วยเสียง: สมาร์ททีวีบางรุ่นรองรับการควบคุมด้วยเสียง ทำให้คุณสามารถค้นหาเนื้อหาหรือเปลี่ยนการตั้งค่าโดยใช้คำสั่งเสียง
นี่เป็นเพียงขั้นตอนพื้นฐานในการใช้สมาร์ททีวี โปรดดูคู่มือผู้ใช้ทีวีของคุณหรือแหล่งข้อมูลออนไลน์สำหรับคำแนะนำเฉพาะและคำแนะนำในการแก้ปัญหา
วิธีดูแลสมาร์ททีวี
การบำรุงรักษาสมาร์ททีวีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพสูงสุดและอายุการใช้งานที่ยาวนานของทีวี ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยคุณในการบำรุงรักษาสมาร์ททีวี:
- ทำความสะอาดหน้าจอทีวี: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ทำความสะอาดหน้าจอทีวีเบาๆ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่รุนแรงหรือวัสดุที่มีฤทธิ์กัดกร่อนซึ่งอาจทำให้หน้าจอเสียหายได้
- ทำให้ทีวีเย็น: วางทีวีในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และหลีกเลี่ยงการวางในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรงหรือใกล้แหล่งความร้อนที่อาจทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไป
- ปิดทีวีเมื่อไม่ได้ใช้งาน: การปิดทีวีเมื่อไม่ได้ใช้งานจะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดการใช้พลังงาน
- อัปเดตซอฟต์แวร์ทีวี: ตรวจสอบการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำและติดตั้งเพื่อให้แน่ใจว่าทีวีทำงานบนเวอร์ชันล่าสุด
- ใช้อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก: ใช้อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากเพื่อป้องกันทีวีจากไฟกระชากและความเสียหายจากไฟฟ้า
- หลีกเลี่ยงภาพนิ่ง: หลีกเลี่ยงการแสดงภาพนิ่งเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากอาจทำให้หน้าจอเบิร์นอินได้
- ใช้การตั้งค่าที่ถูกต้อง: ปรับการตั้งค่าทีวีให้ตรงกับแสงในห้องและการตั้งค่าการรับชม การใช้การตั้งค่าที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ปวดตาหรือทำให้ทีวีเสียหายได้
เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ คุณจะมั่นใจได้ว่าสมาร์ททีวีของคุณจะอยู่ในสภาพดีเยี่ยมและใช้งานได้นานหลายปี
สรุป
สมาร์ททีวีคือโทรทัศน์ที่มีคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การสตรีมออนไลน์ และแอปพลิเคชันแบบโต้ตอบ ทีวีเหล่านี้มอบประสบการณ์การรับชมที่ดื่มด่ำและเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น ด้วยการเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์ที่หลากหลาย รวมถึงภาพยนตร์ รายการทีวี และเกม สมาร์ททีวีสามารถควบคุมได้โดยใช้รีโมตหรือแอปบนสมาร์ทโฟน และมีหลายรุ่นที่รองรับการควบคุมด้วยเสียง เพื่อให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพสูงสุดและอายุการใช้งานที่ยาวนาน การดูแลรักษาทีวีอย่างเหมาะสมโดยการทำความสะอาดหน้าจอ ปล่อยให้เย็น และหลีกเลี่ยงภาพนิ่ง ด้วยการใช้งานที่ง่ายและยืดหยุ่น สมาร์ททีวีจึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเชื่อมต่อและรับความบันเทิงจากความสะดวกสบายในห้องนั่งเล่น