เวลามีคนถามผมว่า แอร์ยี่ห้อไหนดี ถือว่าเป็นคำถามที่ตอบยาก ไม่ใช่ว่าไม่รู้ แต่มันมีหลายยี่ห้อ หลายประเภท หลายช่วงราคา จะดีกว่ามั้ย ถ้าเรารู้สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อแอร์
ในบทความนี้นอกจากความรู้เรื่องการเลือกซื้อแอร์แล้ว ผมยังเขียนเล่าประสบการณ์ในการใช้แอร์ยี่ห้อต่างๆ รวมถึงร้านค้าออนไลน์ ที่ทุกคนสามารถสั่งซื้อได้ง่าย ราคาถูก แถมมีการจัดแคมเปญอยู่บ่อยๆ
5 อันดับ แอร์ ขายดี
1. TCL แอร์ ขนาด 9,284 – 24,782 BTU ระบบ Inverter เครื่องปรับอากาศติดผนังรุ่น TAC-XAL_non-install ไม่รวมค่าติดตั้ง [ผ่อน 0% นาน 10 เดือน] – แอร์ยี่ห้อไหนดี
ราคา: 8,700 – 13,990 บาท ราคาวันที่ 27/7/23
2. [Pre-orderของเข้า8 ส.ค.]เฉพาะ20000BTU Hisense เครื่องปรับอากาศติดผนัง CD Series ไม่รวมติดตั้ง – แอร์ยี่ห้อไหนดี
ราคา: 7,620 บาท ราคาวันที่ 27/7/23
3. TCL แอร์ ขนาด 9,000 – 17,438 BTU ประหยัดไฟ 2 ดาว ระบบ AI Control Inverter เชื่อมต่อ WiFi รุ่น T-PRO TAC-PRO_non-install ไม่รวมค่าติดตั้ง SEER 21.06 [ผ่อน 0% นาน 10 เดือน] – แอร์ยี่ห้อไหนดี
ราคา: 10,100 – 14,500 บาท ราคาวันที่ 27/7/23
4. 8.8 3ทุ่ม แอร์ส่งฟรี รวมติดตั้ง/เฉพาะเครื่อง, Hisense Inverter (KB/KA Series), แอร์อินเวอร์เตอร์, รับประกัน 12 ปี – แอร์ยี่ห้อไหนดี
ราคา: 8,999 – 17,200 บาท ราคาวันที่ 27/7/23
5. แอร์ ไดกิ้น Daikin ระบบ Inverter (FTKQ_XV2S) Max Inverter รุ่นใหม่ล่าสุด ปี2023!!!! เสียงเงียบ ประหยัดไฟ กันจิ้งจก – แอร์ยี่ห้อไหนดี
ราคา: 10,399 – 34,399 บาท ราคาวันที่ 27/7/23
แอร์คอนดิชั่น คือ
แอร์คอนดิชั่นหรือเครื่องปรับอากาศ คือ ระบบทำความเย็นชนิดหนึ่งที่ทำให้อากาศเย็นลง ทำงานโดยรักษาอุณหภูมิของพื้นที่ให้ต่ำกว่าอุณหภูมิแวดล้อม เครื่องปรับอากาศใช้ในบ้าน สำนักงาน และอาคารอื่น ๆ เพื่อสร้างความสบายในช่วงกลางวันที่ร้อนจัดหรือกลางคืนที่มีอุณหภูมิสูง
เครื่องปรับอากาศถูกนำมาใช้เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายมากขึ้นโดยการลดอุณหภูมิภายในห้องให้อยู่ในระดับที่มนุษย์ต้องการมากขึ้น นอกจากนี้ยังลดระดับความชื้นและกรองสารมลพิษออกจากอากาศ
ประโยชน์ของแอร์
ในฤดูร้อน เครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิต ทำให้เราเย็นและทำให้เรานอนหลับสบาย เครื่องปรับอากาศยังเป็นส่วนสำคัญในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงด้วย จะเห็นว่ามีสัตว์เกิดภาวะฉุกเฉินจากความร้อน (Heat Stroke) ในช่วงอากาศร้อนของทุกปี
เครื่องปรับอากาศมีหลายรูปแบบและขนาด มีทั้งขนาดใหญ่สำหรับห้องขนาดใหญ่ ขนาดเล็กสำหรับห้องเดี่ยว และแม้แต่แบบพกพาที่สามารถนำติดตัวไปที่สำนักงานหรือไปเที่ยวพักผ่อนได้!
แอร์มีกี่ประเภท
ในปัจจุบันเราจะเห็นว่าแอร์มีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานที่ต่างกัน เรามาดูว่าที่นิยมในบ้านเรามีกี่แบบ และใช้งานอย่างไร
แอร์ติดผนัง
เครื่องปรับอากาศติดผนังเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับบ้านทั่วไป มีประโยชน์อย่างมากในสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัดในการติดตั้ง นอกจากนี้ยังติดตั้งง่ายสุด ๆ และยังมีช่องระบายอากาศในตัวอีกด้วย
เครื่องปรับอากาศติดผนังที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันบางรุ่นมีอัตราประสิทธิภาพพลังงานสูงถึง 19 SEER ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้มากกว่า เมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศประเภทอื่นๆ
แอร์แขวน
เครื่องปรับอากาศแบบแขวนเป็นเครื่องปรับอากาศประเภทแขวนจากเพดานซึ่งห้อยลงมาจากโครงโลหะ เรียกอีกอย่างว่า “แอร์แขวน” หรือ “แอร์ติดเพดาน”
ประโยชน์ของแอร์แขวนมีมากมาย ประการแรก ยูนิตเหล่านี้มีราคาถูกกว่าเครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง ในกรณีที่ต้องใช้แอร์ BTU สูงๆ และนั่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ ประการที่สอง เครื่องปรับอากาศประเภทนี้ไม่ใช้พื้นที่บนพื้นใด ๆ และนั่นเป็นข้อได้เปรียบเมื่อมีพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับติดตั้งที่ผนัง
แอร์ตั้งพื้น
เครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้น คือ เครื่องปรับอากาศประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบให้วางบนพื้น ใช้ได้ทั้งเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย
เครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้นมีราคาแพงกว่าเครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง แต่มีความสามารถในการทำความเย็นที่ดีกว่าและมีตัวเลือกการติดตั้งที่หลากหลายกว่า นอกจากนี้ยังดูแลรักษาได้ง่ายกว่า
แอร์เคลื่อนที่
เครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งจำเป็นในฤดูร้อน ช่วยให้บ้านของคุณเย็นสบาย แต่อาจสร้างความยุ่งยากในการติดตั้งและบำรุงรักษา นั่นเป็นเหตุผลที่หลายคนชอบไปเส้นทางแบบพกพา เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการติดตั้งระบบแอร์ให้ยุ่งยาก หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเช่าที่ไม่อนุญาตให้ติดตั้ง
เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่มักจะมีขนาดเล็กกว่าเครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้น ซึ่งหมายความว่าสามารถเคลื่อนย้ายจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่งได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังใช้พลังงานน้อยกว่ารุ่นใหญ่ หมายความว่าคุณจะประหยัดเงินค่าสาธารณูปโภคในแต่ละเดือน เครื่องปรับอากาศแบบพกพายังมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างที่ทำให้เจ้าของบ้านต้องการมากยิ่งขึ้น
- มีพัดลมในตัวที่หมุนเวียนอากาศเย็นไปทั่วบ้านของคุณ
- เสียงเงียบกว่ารุ่นอื่นๆ ส่วนใหญ่
- ออกแบบมาให้พอดีกับขนาดห้องของคุณ
- หลายรุ่นมาพร้อมกับรีโมทคอนโทรลและตัวจับเวลา
แอร์อินเวอร์เตอร์ คือ
เครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์เป็นระบบปรับอากาศที่มีความสามารถในการเปลี่ยนการใช้พลังงานขึ้นอยู่กับความต้องการพลังงาน
เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ในเครื่องปรับอากาศเป็นอุปกรณ์ที่แปลงไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) เป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) อินเวอร์เตอร์สามารถใช้เพื่อกำหนดความถี่ตัวแปรของแรงดันและกระแสเอาต์พุต ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมระดับความเย็นในบ้านได้มากขึ้น
แอร์อินเวอร์เตอร์มีราคาแพงกว่าแอร์แบบเดิม เนื่องจากต้นทุนสูงกว่า แต่ข้อดีคือ ประหยัดค่าไฟ ปรับอุณหภูมิห้องได้คงที่ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แอร์อินเวอร์เตอร์ กับ แอร์ธรรมดา
เครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์รุ่นใหม่ที่ยกระดับจากเครื่องปรับอากาศแบบเดิม มีข้อดีหลายประการที่ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แอร์อินเวอร์เตอร์มีประสิทธิภาพมากกว่าแอร์ทั่วไปมาก เนื่องจากใช้พลังงานน้อยกว่าในการทำให้บ้านหรือที่ทำงานของคุณเย็นลง ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสร้างการปล่อย CO2 น้อยลงซึ่งดีต่อสิ่งแวดล้อม
แอร์อินเวอร์เตอร์ยังมีระดับเสียงรบกวนที่ต่ำกว่า ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับใช้ในสำนักงานหรือห้องนอนที่ผู้คนต้องนอนหลับตอนกลางคืน
เครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นที่รู้จักในด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ระดับเสียงที่ต่ำกว่า และอุณหภูมิที่คงที่
ข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์กับเครื่องปรับอากาศธรรมดาคือ เครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์มีระบบขับเคลื่อนความถี่แปรผัน (VFD) ระบบ VFD นี้ช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากอัตราการใช้พลังงาน ทำให้ประหยัดค่าไฟมากกว่าแอร์แบบธรรมดาอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถทำงานที่ความเร็วต่ำลง ซึ่งส่งผลให้มีเสียงรบกวนน้อยลงและประสิทธิภาพการระบายความร้อนดีขึ้น
วิธีคํานวณ BTU
BTU เป็นหน่วยวัด ย่อมาจาก “British Thermal Unit” (BTUs) BTU คือปริมาณความร้อนที่ต้องใช้ในการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของน้ำ 1 ปอนด์ (0.45 กิโลกรัม) 1 องศาฟาเรนไฮต์ (1.8 องศาเซลเซียส)
มีวิธีง่ายๆ ในการคำนวณ BTU
พื้นที่ห้อง (ตารางเมตร) × 800 = BTU
ตัวอย่าง ห้องขนาด กว้าง 4 เมตร ยาว 4 เมตร
(4 × 4) × 800 = 12,800 BTU
ในกรณีนี้เราสามารถใช้แอร์ขนาด 12,000 BTU ได้ เพราะเวลาใช้งานจริงภายในห้องจะมีอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆรวมอยู่ด้วย ทำให้ปริมาตรห้องน้อยลงอีกหน่อย แต่ไม่อยากแนะนำขนาด 9,000 BTU สักเท่าไหร่ เพราะค่อนข้าง Overload ห้องจะเย็นช้า แอร์จะทำงานหนัก ที่สำคัญเมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ราคาต่างกับขนาด 12,000 BTU ไม่มากนัก
ราคาแอร์ – แอร์ยี่ห้อไหนดี
มีแอร์มากมายหลายยี่ห้อวางขายในตลาด แล้วจะเลือกยื่ห้อไหนดี คำถามนี้น่าจะเกิดกับทุกคนที่กำลังอยากติดแอร์ ผมขอเล่าในมุมมองของคนที่มีโอกาสติดแอร์มาแล้วหลายตัว ซึ่งต่างกรรมต่างวาระมาก มีทั้งห้องทำงานขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ห้องนอนขนาดเล็กแต่แดดส่อง ห้องนอนขนาดใหญ่
ซึ่งถ้าคุณไปถามใน Pantip คำตอบจะชี้ไปทาง Mitsubishi กับ Daikin ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ ทั้ง 2 ยี่ห้อ เป็นแบรนด์ที่ทำแอร์ได้ดีมากๆ แต่มันแพงครับ ของดีแต่ราคาสูง ถ้าคุณไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ สามารถจัดได้เลย ไม่ผิดหวังแน่นอน แต่ถ้ามีงบประมาณจำกัด ลองมองยี่ห้ออื่นก็เป็นทางเลือกที่ดี ผมจะแบ่งราคาแอร์เป็น 3 กลุ่ม ซึ่งแน่นอนผมเคยใช้ทั้ง 3 แบบแล้ว ใช้งานได้ดีเยี่ยม มันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้งานและงบประมาณเป็นหลัก
กลุ่มราคาสูง
เป็นใครไปไม่ได้ Mitsubishi กับ Daikin เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือมาก มีเทคโลยีเรื่องเครื่องปรับอากาศที่ทันสมัย ถ้าคุณต้องการของดีและสามารถจ่ายได้ นี่คือยี่ห้อแอร์ที่ดีที่สุดในตลาดแล้วครับ ตัวผมใช้ Mitsubishi ในห้องนอนเล็กมาหลายปี ไม่เคยเสียเลย ทนมาก
กลุ่มราคากลาง
กลุ่มนี้ค่อนข้างใหญ่ แข่งกันดุเดือดมาก แต่คนที่ได้ประโยชน์คือผู้ปริโภคอย่างพวกเรานี่แหล่ะ ประกอบไปด้วย Carrier, Panasonic, Samsung และ LG เวลาเลือกแอร์หลังจากได้ขนาด BTU ที่ต้องการ พอดูเรื่องงบประมาณ ส่วนใหญ่จะมาเลือกแอร์จากกลุ่มราคานี้ เพราะถูกกว่ากลุ่มราคาสูง แต่ได้ยี่ห้อดังไม่แพ้กัน มีเทคโนโลยีทันสมัยเหมือนกัน เรื่องความทนทาน ผมมองว่าเป็นเรื่อง “ลางเนื้อชอบลางยา” ใครชอบยี่ห้อไหนใช้ยี่ห้อนั้นจะดีที่สุด ตัวผมเคยใช้ Samsung กับ Carrier ถ้าถามว่าชอบแบรนด์ไหนที่สุดในกลุ่มนี้ ผมชอบ Carrier เพราะห้องนอนใหญ่ใช้ Carrier Xinverter 21,000 BTU ซึ่ง Overload เมื่อเทียบกับขนาดห้อง ผมเปิดวันละ 16 ชม. มากว่า 4 ปี ไม่เคยเสียเช่นกัน น้องทนมาก
กลุ่มราคาประหยัด
Central Air กับ Haier เป็นตัวแทนหมู่บ้าน เทียบราคาแล้วชนะเลิศ ส่วนตัวผมมองว่าเหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัด และผู้ประกอบการ จะช่วยลดต้นทุนได้มาก เราอาจไม่จำเป็นต้องเลือกรุ่นที่มีเทคโนโลยีสูงๆในบางห้อง เช่นห้องที่มีคนเยอะ อย่างผมใช้ Central Air 25,000 BTU กับห้องขนาดใหญ่ที่มีคนใช้งาน 4 -5 คน จำได้ว่ารวมติดตั้งแล้วจ่ายไปสองหมื่นต้นๆ ซึ่งต่ำกว่า BTU ละบาทเสียอีก ใช้มาเกือบ 10 ปี เปลี่ยนอะไหล่ไปครั้งหนึ่งไม่ถึง 500 บาท นับว่าคุ้มมาก
วิธีเลือกซื้อแอร์
ผมทำเป็นขั้นตอน เพื่อลดความสับสน เพราะจริงๆแล้วการซื้อแอร์ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
- คำนวณขนาดแอร์ที่ต้องใช้จากพื้นที่ห้อง
- เลือกประเภทแอร์จากพื้นที่ติดตั้ง
- เลือกยี่ห้อแอร์ให้ตรงกับงบประมาณและความชอบของเรา
วิธีประหยัดแอร์
จริงๆเราทุกคนต่างได้รับการสอนเรื่องการประหยัดไฟมาอย่างต่อเนื่อง และผมเชื่อว่าทุกคนก็รู้ แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราลองมาทบทวนดูเป็นข้อๆว่าเราไม่พลาด หรือหลงลืมเรื่องใดไป
- เปิดแอร์ที่ 25 องศา จะเป็นอุณหภูมิที่เย็นสบาย
- ใช้พัดลมร่วมด้วย เมื่อผิวเราโดนพัดลมจะรู้สึกเย็นมาก ดีกว่าไปลดอุณภูมิแอร์
- ไม่เปิดประตูทิ้งไว้ การรักษาอุณหภูมิห้องไว้ ทำให้แอร์ทำงานน้อยลง
- เลือก BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง
- เลือกใช้แอร์อินเวอร์เตอร์
- ล้างแอร์ทุกๆ 6 เดือน เพราะเมื่อแอร์สกปรก แอร์จะต้องทำงานมากขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิห้อง
สรุป แอร์ยี่ห้อไหนดี
สำหรับคนที่อ่านจนจบ ผมเชื่อว่ามีความรู้พอที่จะเลือกยี่ห้อที่ต้องการได้แล้ว ทุกยี่ห้อที่นำมาแนะนำนั้นน่าเชื่อถือ มีราคาสมเหตุผล รวมกับการใช้งานที่ถูกต้อง ล้างแอร์สม่ำเสมอ จะทำให้แอร์มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน การลงทุนกับความเย็นสบายในที่ทำงานและที่พักอาศัย ให้กับตัวเองและคนในครอบครัว ถือเป็นการซื้อความสุขและเพิ่มคุณภาพชีวิตครับ