ผงโกโก้แท้ 100 ยี่ห้อไหนดี ติดใจทุกคน

หลังจากการค้นหา ผงโกโก้แท้ 100 ยี่ห้อไหนดี ผมก็ได้ผงโกโก้ตัวที่ถูกใจไว้ประจำบ้าน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชงให้ใครดื่มต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “อร่อยมาก” ต่างจากตัวราคาถูกที่เคยซื้อ แบบไม่ต้องเพ่ง รับรู้ได้เลยว่าของแพง!

แต่ก่อนจะใช้ของยี่ห้อดัง ผมเคยสั่งแบบเป็นกิโล ราคาไม่แพงมาดื่ม ภาพรวมถือว่าดีนะ แต่ยังเทียบไม่ได้กับโกโก้ร้านแบรนด์ดัง ผมจึงเริ่มค้นหาผงโกโก้คุณภาพมาทดลอง

หลังจากได้ลองแล้ว ต้อมยอมรับว่า คุณภาพนั้นดีตามราคาจริงๆ ตอนแรกผมก็แยกไม่ค่อยออก แต่พอลองดื่มเปรียบเทียบกัน จึงเห็นข้อแตกต่างรายละเอียดต่างๆที่ไม่เหมือนกัน

5 อันดับ ผงโกโก้แท้ 100 ยี่ห้อไหนดี

ผงโกโก้ คืออะไร

ผงโกโก้เป็นส่วนผสมทั่วไปที่ใช้ในการปรุงอาหารและการอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสูตรของหวานและเครื่องดื่ม ทำมาจากเมล็ดโกโก้ซึ่งเป็นเมล็ดของต้นโกโก้ (Theobroma cacao) ขั้นตอนการทำผงโกโก้เริ่มต้นด้วยการเก็บเกี่ยวฝักโกโก้สุกและแยกเมล็ดโกโก้ออกมา

นี่คือภาพรวมของกระบวนการผลิตผงโกโก้:

1. การเก็บเกี่ยวและการหมัก: ฝักโกโก้เก็บเกี่ยวจากต้นโกโก้ ถั่วที่ล้อมรอบด้วยเนื้อรสหวานจะถูกนำออกจากฝัก จากนั้นหมักทิ้งไว้สองสามวัน ในระหว่างนั้นกระบวนการทางธรรมชาติจะย่อยสลายน้ำตาลและกรดในเยื่อกระดาษ ซึ่งส่งผลต่อรสชาติของถั่ว
2. การทำให้แห้ง: หลังจากหมักแล้ว ถั่วจะกระจายออกไปตากแดดให้แห้ง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณความชื้นและช่วยรักษาไว้สำหรับการแปรรูปต่อไป
3. การคั่ว: ถั่วเมล็ดแห้งจะคั่วเพื่อเพิ่มรสชาติ อุณหภูมิและระยะเวลาในการคั่วอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของผงโกโก้ที่ต้องการ
4. การฝัด: ถั่วคั่วจะกะเทาะเปลือกนอก (แกลบ) ออก เหลือไส้ในไว้
5. การบด: หัวปากกาผ่านการบด โดยปกติจะมีการเติมเนยโกโก้เล็กน้อย ซึ่งเป็นไขมันตามธรรมชาติที่มีอยู่ในถั่ว กระบวนการบดนี้ทำให้เกิดแป้งข้นที่เรียกว่าเหล้าช็อกโกแลต
6. การกด: เหล้าช็อกโกแลตจะถูกกดเพื่อแยกของแข็งโกโก้ออกจากเนยโกโก้ ของแข็งแห้งที่เหลือจะถูกบดเป็นผงละเอียด ซึ่งเรียกว่าผงโกโก้ เนยโกโก้ที่สกัดออกมาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย รวมถึงในการผลิตช็อกโกแลต

ผงโกโก้มีหลายประเภท โดยพิจารณาจากปริมาณไขมันเป็นหลัก:

1. ผงโกโก้ธรรมชาติ: ผงโกโก้ชนิดนี้มีปริมาณไขมันค่อนข้างต่ำ โดยปกติประมาณ 10-12% มีสภาพเป็นกรดและให้รสช็อกโกแลตแก่สูตรอาหาร เป็นที่นิยมใช้ในการอบ
2. ผงโกโก้ที่ผ่านกระบวนการแบบดัตช์: หรือที่เรียกว่าโกโก้อัลคาไลซ์ ผงนี้ผ่านการบำบัดด้วยอัลคาไลเพื่อทำให้ความเป็นกรดเป็นกลาง กระบวนการนี้ทำให้ได้รสชาติที่อ่อนลง ขมน้อยลง และมีสีเข้มขึ้น ผงโกโก้แปรรูปแบบดัตช์มักใช้ในสูตรอาหารที่ต้องการรสชาติช็อกโกแลตที่ละเอียดกว่า เช่น ในช็อกโกแลตร้อนผสมหรือของหวานบางชนิด

ผงโกโก้ทั้งสองชนิดสามารถใช้แทนกันได้ในสูตรอาหาร แต่สิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจกับชนิดที่ระบุในสูตรเฉพาะ เนื่องจากความเป็นกรดอาจส่งผลต่อหัวเชื้อและปฏิกิริยาเคมีอื่นๆ ในการอบ

ผงโกโก้เป็นส่วนประกอบหลักในอาหารต่างๆ รวมถึงเค้ก บราวนี่ คุกกี้ พุดดิ้ง และแน่นอน ช็อกโกแลตร้อน ไม่เพียงเพิ่มรสชาติช็อกโกแลตที่เข้มข้น แต่ยังให้สีที่เข้มแก่ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปอีกด้วย

ผงโกโก้ มีกี่แบบ

ผงโกโก้มีสองประเภทหลัก:

1. ผงโกโก้ธรรมชาติ: ผงโกโก้ชนิดนี้ทำมาจากเมล็ดโกโก้ที่ผ่านการคั่วและบดเป็นก้อน จากนั้นจึงกดเพสต์เพื่อแยกของแข็งโกโก้ออกจากเนยโกโก้ และของแข็งแห้งจะบดเป็นผงละเอียด ผงโกโก้ธรรมชาติมีปริมาณไขมันค่อนข้างต่ำ (ประมาณ 10-12%) และเป็นกรด ทำให้สูตรอาหารมีรสช็อกโกแลตเข้มข้น
2. ผงโกโก้ที่ผ่านกระบวนการแบบดัตช์: หรือที่เรียกว่าอัลคาไลซ์โกโก้ ผงโกโก้ชนิดนี้ผ่านกระบวนการเพิ่มเติม หลังจากที่เมล็ดโกโก้คั่วและบดเป็นแป้งแล้ว เมล็ดจะผ่านการบำบัดด้วยด่างเพื่อทำให้ความเป็นกรดเป็นกลาง จากนั้นจึงนำไปกดเพื่อให้ได้เนื้อโกโก้ที่แห้งและบดเป็นผงละเอียด ผงโกโก้ที่ผ่านกระบวนการของเนเธอร์แลนด์มีรสอ่อนกว่า ขมน้อยกว่า และมีสีเข้มกว่าผงโกโก้ธรรมชาติ

นอกจากสองประเภทหลักนี้แล้ว ยังมีผงโกโก้ที่หลากหลายตามปริมาณไขมัน:

• ผงโกโก้ไขมันสูง: ผงโกโก้ประเภทนี้มีเปอร์เซ็นต์เนยโกโก้ (ไขมัน) สูงกว่าผงโกโก้ทั่วไป มักใช้ในการอบแบบพิเศษหรือทำขนมช็อกโกแลตครีมเข้มข้น
• ผงโกโก้ไขมันต่ำ: ประเภทนี้มีการเอาเนยโกโก้ออกมากขึ้น ทำให้ได้ผงโกโก้ที่มีปริมาณไขมันต่ำ มักใช้ในสูตรอาหารที่ต้องการลดปริมาณไขมัน

แม้ว่าผงโกโก้ธรรมชาติและผงโกโก้แปรรูปจากเนเธอร์แลนด์เป็นชนิดที่มีจำหน่ายทั่วไปมากที่สุด แต่ปริมาณไขมันที่แปรผันทำให้มีตัวเลือกมากขึ้นสำหรับความต้องการเฉพาะด้านการทำอาหาร สิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจกับประเภทของผงโกโก้ที่ระบุไว้ในสูตรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ข้อดีของ ผงโกโก้

ผงโกโก้มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการเมื่อบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่สมดุล สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าประโยชน์เหล่านี้เกี่ยวข้องกับผงโกโก้ที่ไม่หวาน เนื่องจากผลิตภัณฑ์โกโก้ที่เติมน้ำตาลและไขมัน เช่น ช็อกโกแลตแท่งและโกโก้ผสม อาจให้ประโยชน์ต่อสุขภาพไม่เท่ากัน ต่อไปนี้เป็นประโยชน์บางประการของผงโกโก้:

1. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ: ผงโกโก้เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอล สารต้านอนุมูลอิสระช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ลดความเครียดจากอนุมูลอิสระและความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
2. สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด: จากการศึกษาพบว่าสารฟลาโวนอยด์ในผงโกโก้อาจช่วยให้สุขภาพหัวใจดีขึ้นโดยการส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตที่ดี ลดความดันโลหิต และเพิ่มการทำงานของเยื่อบุผนังหลอดเลือด
3. อารมณ์และการรับรู้ที่ดีขึ้น: โกโก้มีสารประกอบที่อาจส่งผลในเชิงบวกต่อการทำงานของอารมณ์และความรู้ความเข้าใจ สามารถกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ตามธรรมชาติ และยังมีสารที่อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้
4. ฤทธิ์ต้านการอักเสบ: สารประกอบบางชนิดในโกโก้มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ซึ่งสามารถช่วยลดการอักเสบในร่างกายและอาจลดความเสี่ยงของภาวะที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบบางอย่าง
5. การควบคุมน้ำตาลในเลือด: โกโก้อาจช่วยให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น การศึกษาพบว่าส่วนประกอบบางอย่างในโกโก้สามารถเพิ่มความไวของอินซูลินได้ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานหรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน
6. ปริมาณแร่ธาตุ: ผงโกโก้เป็นแหล่งที่ดีของแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม และแคลเซียม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทำงานของร่างกายต่างๆ
7. สุขภาพผิว: ฟลาโวนอยด์ในโกโก้อาจช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากแสงแดด ปรับปรุงความชุ่มชื้นของผิว และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังผิวหนัง ซึ่งอาจมีส่วนทำให้ผิวมีสุขภาพดีและกระจ่างใสขึ้น
8. การควบคุมน้ำหนัก: การศึกษาบางชิ้นแนะนำว่าการบริโภคโกโก้อาจเกี่ยวข้องกับการควบคุมน้ำหนักที่ดีขึ้น เนื่องจากมีโอกาสลดความอยากอาหารและส่งเสริมความรู้สึกอิ่ม

สิ่งสำคัญคือต้องเพลิดเพลินกับผงโกโก้ในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากมีแคลอรี่หนาแน่นและอาจมีน้ำตาลและไขมันเพิ่มในผลิตภัณฑ์แปรรูปบางชนิด เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ เลือกผงโกโก้ที่ไม่หวานและรวมไว้ในสูตรอาหาร เช่น สมูทตี้ ข้าวโอ๊ต โยเกิร์ต หรือเป็นส่วนผสมในขนมอบ เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงอาหารหรืออาหารเสริม คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีความกังวลหรือเงื่อนไขด้านสุขภาพที่เฉพาะเจาะจง

ผงโกโก้ เหมาะกับใคร

ผงโกโก้เหมาะสำหรับบุคคลหลากหลายกลุ่ม แต่การบริโภคควรปรับให้เหมาะกับความต้องการด้านอาหาร สถานะสุขภาพ และไลฟ์สไตล์โดยรวมของแต่ละคน ต่อไปนี้คือกลุ่มคนที่สามารถใช้ผงโกโก้ได้:

1. ประชากรทั่วไป: โดยทั่วไปผงโกโก้ปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ในปริมาณที่พอเหมาะ รวมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สามารถเพลิดเพลินโดยเป็นส่วนหนึ่งของการรับประทานอาหารที่สมดุล เพิ่มรสชาติช็อกโกแลตเข้มข้นให้กับอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ
2. บุคคลที่ใส่ใจสุขภาพ: ผู้ที่ใส่ใจในสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอาจชื่นชอบสารต้านอนุมูลอิสระและประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจของผงโกโก้ การเลือกผงโกโก้ที่ไม่หวานและใช้ในสูตรอาหารเพื่อสุขภาพอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดปริมาณน้ำตาลและไขมัน
3. คนรักช็อกโกแลต: ผงโกโก้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบช็อกโกแลตแต่ต้องการหลีกเลี่ยงน้ำตาลและไขมันที่เพิ่มเข้ามาซึ่งพบในช็อกโกแลตแท่งและผลิตภัณฑ์โกโก้ที่มีรสหวานอื่นๆ
4. มังสวิรัติและมังสวิรัติ: ผงโกโก้ทำจากพืชและเหมาะสำหรับผู้ทานเจและมังสวิรัติ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมที่มาจากสัตว์
5. ผู้ที่แพ้กลูเตน: ผงโกโก้บริสุทธิ์ปราศจากกลูเตน จึงเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่เป็นโรค celiac หรือแพ้กลูเตน
6. ผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด: สารฟลาโวนอยด์ในผงโกโก้มีความเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นกับหลอดเลือดหัวใจ บุคคลที่มีความกังวลเรื่องสุขภาพของหัวใจอาจพบว่าผงโกโก้เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพในสูตรอาหารเมื่อเทียบกับช็อกโกแลตจากแหล่งอื่นๆ
7. บุคคลที่แสวงหาอารมณ์ที่ดีขึ้น: บางคนอาจพบผลกระทบด้านอารมณ์จากการบริโภคโกโก้ เนื่องจากสามารถกระตุ้นการปลดปล่อยสารเอ็นโดรฟินและสารประกอบอื่น ๆ ที่ส่งผลดีต่ออารมณ์

อย่างไรก็ตาม มีบุคคลบางกลุ่มที่ควรระวังหรือหลีกเลี่ยงการบริโภคผงโกโก้มากเกินไป:

1. บุคคลที่มีความไวต่อคาเฟอีน: ผงโกโก้มีคาเฟอีน ซึ่งอาจส่งผลต่อบางคนมากกว่าคนอื่นๆ ผู้ที่ไวต่อคาเฟอีนอาจต้องการจำกัดการบริโภคผงโกโก้ โดยเฉพาะช่วงใกล้เวลาเข้านอน
2. ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือแพ้ง่าย: แม้ว่าโกโก้จะไม่ใช่สารก่อภูมิแพ้ทั่วไป แต่บุคคลบางคนอาจมีความไวต่อสารประกอบเฉพาะในโกโก้ หากคุณพบอาการแพ้หรือแพ้ผลิตภัณฑ์โกโก้ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยง
3. ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร: ในบางคน โกโก้สามารถกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกไม่สบายในทางเดินอาหารหรือกรดไหลย้อนได้ หากคุณมีปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร สิ่งสำคัญคือต้องติดตามว่าโกโก้ส่งผลต่อคุณอย่างไรและปรับการบริโภคของคุณให้เหมาะสม

เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมอาหารใด ๆ คุณควรบริโภคผงโกโก้ในปริมาณที่พอเหมาะและเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่สมดุล หากคุณมีข้อกังวลหรือเงื่อนไขด้านสุขภาพที่เฉพาะเจาะจง คุณควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหรือนักโภชนาการที่ลงทะเบียนก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกับอาหารของคุณ

วิธีดูแล ผงโกโก้

ในการดูแลผงโกโก้และรับประกันคุณภาพ รสชาติ และอายุการเก็บรักษา ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำง่ายๆ เหล่านี้:

1. การเก็บรักษา: เก็บผงโกโก้ในภาชนะปิดไม่ให้อากาศเข้าในที่เย็น แห้ง และมืด การสัมผัสกับอากาศ ความชื้น ความร้อน และแสงอาจทำให้คุณภาพของผงโกโก้ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
2. หลีกเลี่ยงการปนเปื้อน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าภาชนะและอุปกรณ์ที่ใช้จัดการกับผงโกโก้สะอาดและแห้งเพื่อป้องกันการปนเปื้อน
3. ปิดผนึกอย่างถูกต้อง: หลังจากใช้งานแต่ละครั้ง ให้ปิดฝาภาชนะให้แน่นเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไป ซึ่งอาจนำไปสู่การดูดซับความชื้นและการเน่าเสียได้
4. เก็บให้ห่างจากกลิ่นที่รุนแรง: ผงโกโก้สามารถดูดซับกลิ่นจากสภาพแวดล้อมได้ หลีกเลี่ยงการเก็บไว้ใกล้กับอาหารหรือเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรง
5. ตรวจสอบวันหมดอายุ: ตรวจสอบวันหมดอายุหรือ “best by” บนบรรจุภัณฑ์ผงโกโก้ทุกครั้งก่อนซื้อ เลือกผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ที่สุด
6. หลีกเลี่ยงการจับตัวเป็นก้อน: เพื่อป้องกันไม่ให้ผงโกโก้จับตัวเป็นก้อน อย่าให้โดนความชื้น หากจับตัวเป็นก้อน ให้แตกออกโดยใช้ส้อมหรือตะแกรงก่อนใช้
7. การแช่เย็น: แม้ว่าการแช่เย็นจะไม่จำเป็นสำหรับผงโกโก้ แต่ในสภาพอากาศที่ร้อนและชื้น การยืดอายุการเก็บรักษาอาจช่วยได้ หากคุณตัดสินใจที่จะแช่เย็น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าภาชนะปิดสนิทเพื่อป้องกันการควบแน่น
8. ใช้ช้อนส้อมแห้ง: เมื่อตักผงโกโก้ออกจากภาชนะ ให้ใช้ช้อนส้อมแห้งเพื่อหลีกเลี่ยงความชื้น
9. หลีกเลี่ยงอุณหภูมิสูง: อย่าเก็บผงโกโก้ไว้ใกล้กับแหล่งความร้อน เช่น เตา เตาอบ หรือแสงแดดส่องถึงโดยตรง เนื่องจากอุณหภูมิสูงจะส่งผลต่อคุณภาพของผงโกโก้
10. ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเบกกิ้งโซดา: เมื่อใช้ผงโกโก้ในสูตรอาหารที่ต้องใช้เบกกิ้งโซดาเป็นหัวเชื้อ ให้ระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้โกโก้แปรรูปจากเนเธอร์แลนด์ (อัลคาไลซ์โกโก้) ค่า pH ที่เป็นด่างของโกโก้ที่ผ่านกระบวนการผลิตในเนเธอร์แลนด์สามารถรบกวนประสิทธิภาพของเบกกิ้งโซดาในฐานะหัวเชื้อได้ ในสูตรดังกล่าวควรใช้ผงโกโก้ธรรมชาติ

เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ คุณจะยืดอายุการเก็บรักษาและรักษาคุณภาพของผงโกโก้ได้ ทำให้มั่นใจว่าผงโกโก้ยังคงรสชาติดีและพร้อมใช้ทุกเมื่อที่คุณต้องการในการสร้างสรรค์อาหาร

ผงโกโก้ที่ดี

ละลายง่าย

จำได้เลยว่า ตอนใช้ของราคาถูก ชงยากมาก คนยังไงก็ไม่ยอมละลายง่ายๆ จนถึงขั้นเอาเครื่องตีฟองนมมาปั่น มันก็เข้ากันนะ แต่ Texture แบบมีฟองมันไม่อร่อยเลยครับ แต่พอใช้ของแบรนด์ แอบตกใจเล็กๆ ทำไมมันละลายง่ายจัง แค่ช้อนคนๆก็ละลายหมดแล้ว

กลิ่นหอม

ของดีจะมีกลิ่นหอมตั้งแต่เปิดกระป๋อง ตอนชงก็หอม เด็ดสุดก็ตอนดื่ม กลิ่นมันหอมละมุนมาก ดื่มแล้วอารมณ์ดี ช่วยเติมความสุขระหว่างวัน

Aftertaste ยาว

คุณสมบัติข้อนี้ เป็นอะไรที่โดนใจผมที่สุด ผมชอบอาหารและเครื่องดื่มที่มี Aftertaste ยาวๆ น่าจะติดมาจากนิสัยการดื่มกาแฟ และผงโกโก้ตัวนี้ก็ตอบโจทย์ได้อย่างดี หลังจากกลืนเครื่องดื่มไปแล้วเราจะยังได้กลิ่นโกโก้หอมๆทุกครั้งที่เราหายใจ ผมไม่ได้นับว่ากี่ครั้ง แต่นานใช้ได้เลยครับ

สูตรชงโกโก้ของผม

ส่วนผสม

1. ผงโกโก้ 20 กรัม
2. น้ำร้อน 40 กรัม
3. น้ำเชื่อม 20 กรัม (หากชอบนมข้นหวาน ก็ใส่แทนได้ แต่ผมชอบไซรัป เพราะจะทำให้กลิ่นของโกโก้ชัดขึ้น)
4. นมสด 100 กรัม
5. น้ำแข็ง 160 กรัม

วิธีชงโกโก้

1. เทน้ำร้อนใส่แก้วชง
2. ใส่ผงโกโก้ คนให้เข้ากัน
3. เติมน้ำเชื่อม คนให้เข้ากัน
4. เติมนมสด คนให้เข้ากัน
5. เตรียมแก้วพร้อมน้ำแข็ง
6. เทเครื่องดื่มลงแก้ว เป็นอันเสร็จ

ทุกคนสามารถเอาสูตรนี้ไปลองชงกันได้ และหากต้องการเพิ่มหรือลดความหวานก็ตามสบายครับ

ก่อนจบขอเฉลยผงโกโก้ตัวโปรดของผมก่อน นั่นคือ Van Houten ผงโกโก้จากเบลเยี่ยมนั่นเอง น่าจะเป็น Top of The Line ของผงโกโก้ที่มีขายในบ้านเรา ราคาสูงกว่าคนอื่น แต่พอดื่ม แล้วอยากบอกว่า “เอาเงินฉันไปเถอะ”

• Facebook
• Twitter
• Line